วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2559

[Fic] Aldnoah.Zero : Follow your heart, Follow my heart ตอนที่ 5 (Slaine x Inaho)



Fiction : Aldnoah.Zero
Title : Follow your heart, Follow my heart
Author : มิดไนท์-Sama
Pairing : Slaine x Inaho
Rating : PG
Warning : ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน
Note : -








            อุ่น... มือคู่นั้นอบอุ่น... เหมือนพี่ยูกิเลยอินาโฮะหลงอยู่ในห้วงแห่งภวังค์ ความรู้สึกจากฝ่ามือคู่นั้นยังคงตราตรึง กับคนที่พร่ำแต่ส่งสายตาว่าเกลียดกันออกมาอย่างชัดเจนแบบนั้นทำไมถึงมาช่วยกันนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

            ในชั่วโมงเรียน อินาโฮะเหม่อลอยคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันวาน แก้มขาวนวลเริ่มแดงปลั่งขึ้นมาน้อยๆ เมื่อเผลอนึกไปอีกว่าเจ้าค้างคาวในตอนนั้นดูเท่ขนาดไหน

            “...ซึกะ ไคซึกะ... ไคซึกะ อินาโฮะ!” อาจารย์หน้าชั้นเรียนตะโกนเรียกอินาโฮะหลังจากจับได้ว่าอินาโฮะไม่มีความสนใจในวิชาเรียนของตนเองเลยแม้แต่น้อย

            “ครับ” อินาโฮะขานตอบรับหลังจากถูกเรียกสติที่เตลิดไปไกลกลับเข้ามา

            “ออกมาหน้าชั้นทำโจทย์ข้อนี้ให้ดูหน่อยซิ คิดว่าเป็นนักเรียนทุนที่สอบได้อันดับหนึ่งของชั้นตอนเข้าเรียนจะมีสิทธิ์ไม่สนใจเรียนวิชาของฉันได้อย่างนั้นรึ!

            คำบ่นยืดยาวของอาจารย์ประจำวิชาแทบไม่เข้าหูอินาโฮะเลยด้วยซ้ำ เขาลุกขึ้นยืนเดินไปหน้าชั้นเรียนจรดชอล์กแท่งสีขาวตอบโจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ได้อย่างแตกฉาน ละเอียด และเข้าใจง่ายกว่าการสอนของอาจารย์ประจำวิชาเสียอีก อินาโฮะเดินกลับเข้าไปนั่งที่โดยไม่แสดงอาการใดๆ

นิสัยนั้นทำให้อาจารย์ประจำวิชารู้สึกเหมือนโดนหักหน้าและโดนดูถูก เขาไม่ชอบนิสัยของเด็กคนนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว ทั้งหยิ่งผยองและทำราวกับคนอื่นไม่มีค่าในสายตา สักวันเขาจะต้องสั่งสอนเด็กคนนี้ให้หลาบจำจนต้องอ้าปากอ้อนวอนขอร้องแทบเท้าเขา!

            อินาโฮะไม่รู้เลยว่าใบหน้าที่แทบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ของเขาจะทำให้คนอื่นรอบตัวมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวเขา ถึงแม้อินาโฮะจะเผลอเหม่อในชั่วโมงเรียนนั่นก็ไม่ได้กระทบถึงผลการเรียนของเขานัก ตำราทุกวิชาที่ใช้เรียนในเทอมนี้ถูกเขาเปิดอ่านจนหมดก่อนเปิดเทอมด้วยซ้ำ

            โรงเรียนอัลโนอาห์เป็นโรงเรียนที่หมายมั่นปั้นให้เด็กนักเรียนเป็นอัจฉริยะจึงไม่แปลกที่การเรียนการสอนในเกือบทุกคาบเรียนจะมีแต่ความเคร่งเครียดและกดดัน ใครสอบได้คะแนนน้อยกว่าเกณฑ์จะถือว่าเป็นมนุษย์เกรดต่ำและถูกคัดออกไปจากโรงเรียนแห่งนี้ทันที อินาโฮะคิดว่ามันไร้สาระที่ตัดสินคนเพยงแค่เกรดและคำตอบในกระดาษข้อสอบ มนุษย์ทุกคนมักมีความถนัดต่างกันไป อย่างพี่สาวของเขาการเรียนอยู่ในระดับปานกลางแต่เก่งเรื่องการเข้าสังคมและการจูงใจคน แต่ถึงแม้เขาจะมีความคิดย้อนแย้งกับกฎระเบียบที่ไม่หย่อนยานนี้เขาก็ไม่ได้ต่อต้านมัน เพราะสิ่งที่เขาหวังใช้ประโยชน์จากมันก็คือชื่อเสียงเพื่อผลักดันอนาคตของเขาให้รุ่งโรจน์ สามารถหางานดีๆ เงินเดือนสูงๆ ทำเพื่อหวังจะกลายเป็นฝ่ายที่สามารถเลี้ยงดูพี่ยูกิให้อยู่อย่างสุขสบายได้

            หลังเลิกเรียนเป็นเวรทำความสะอาดห้องของอินาโฮะร่วมกับเพื่อนอีกสองคน แต่ทว่าสองคนนั้นโดดหนีไปจึงทำให้เหลือเพียงเขาทำทุกอย่างเพียงคนเดียว อาทิตย์อัสดงพร้อมกับโต๊ะตัวสุดท้ายถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย อินาโฮะหยิบกระเป๋าตั้งใจหันกายออกจากห้อง แต่แล้วร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งได้มาขวางกันทางออกนั้นไว้ อินาโฮะจำได้ดีว่าคนๆ นี้คืออาจารย์วิชาคณิตศาสตร์ที่สอนเขาเมื่อคาบเช้า

            “เธอจะกลับแล้วรึ?”

ใบหน้าดำคล้ำของอาจารย์วิชาคณิตศาสตร์และบรรยากาศรอบตัวแปลกไปทำให้อินาโฮะรู้สึกถึงอันตรายบางอย่าง มือกำสายกระเป๋าสะพายบ่าแน่นเพื่อปลุกใจตัวเองไม่ให้เผลอแสดงอาการตัวสั่นกลัวออกไป แต่กระนั้นก็ยังปิดไม่มิดเมื่ออาจารย์ตรงหน้าย่างก้าวเข้ามาใกล้จนอินาโฮะเผลอเดินถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ

            “อาจารย์มีธุระอะไรเหรอครับ เย็นป่านนี้แล้ว” อินาโฮะทำใจกล้าถามออกไป

            “อ้อ ใช่ เย็นป่านนี้แล้ว ไคซึกะคุง เธอเป็นเด็กหัวไวเรียนรู้เร็ว ไม่ว่าอาจารย์จะออกข้อสอบยากเพื่อเธอขนาดไหนเธอก็แก้โจทย์ปัญหาได้หมด เด็กคนอื่นๆ ต่างก็ได้คะแนนต่ำเพราะเธอเพียงคนเดียว เพราะฉันพยายามออกข้อสอบมาเพื่อเอาชนะเธอ ฉันไม่ชอบท่าทางหยิ่งทะนงของเธอ เธอมักจะมองอาจารย์อย่างฉันด้วยสายตาดูถูกเสมอ...”

            “ผมไม่ได้...”

            “แต่ว่าในที่สุดฉันก็คิดออก อา จริงสิ เด็กนักเรียนอัจฉริยะอย่างเธอยังไงซะวันๆ ก็คงเอาแต่นั่งอ่านตำราคงไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นแน่ ไคซึกะคุงอาจารย์มีเรื่องจะต้องสอนเธอเพิ่มเติมซะแล้ว เธอจะช่วยอยู่เรียนบทเรียนพิเศษกับอาจารย์จะได้ไหม”

            “ผม...ต้องรีบกลับไปทำกับข้าวครับ” ความรู้สึกของอินาโฮะร้องเตือนว่าให้รีบหนีจากคนๆ นี้โดยด่วน ไม่อย่างนั้นอาจเกิดเรื่องไม่ดีอะไรตามมาก็ได้

            อินาโฮะหันกายออกวิ่งหมายมั่นไว้ว่าจะหนีออกทางประตูหลังห้อง แต่ความไวของเขาก็แพ้ให้กับคนร่างสูงกำยำกว่า เขาถูกกระชากเหวี่ยงลงบนพื้นห้องกระแทกโต๊ะเรียนหลายตัวล้มลงจนเกิดเสียงโครมครามดังลั่น อินาโฮะงอตัวด้วยความจุกระบมทั่วร่าง โดยไม่ทันตั้งตัวเงาดำทาบทับลงบนตัวเขา จับไหล่เขาแนบแน่นลงบนพื้นห้อง

            เรื่องแบบนี้... เรื่องแบบนี้...

            ไม่! ไม่!!

            อินาโฮะไม่สามารถควบคุมอาการสั่นกลัวได้อีกต่อไป เขาออกแรงตะเกียกตะกายขัดขืนสุดฤทธิ์ เล็บคมที่ยังไม่ได้ตัดในสัปดาห์นี้ข่วนเข้าที่ใบหน้าหยาบกร้านนั้นเต็มแรง ฝ่ายตรงข้ามเผลอปล่อยร่างของอินาโฮะด้วยตกใจ แต่เมื่อตั้งสติได้เขารีบหันไปคว้าตัวอินาโฮะด้วยความโกรธคูณเท่าทวีแล้วเหวี่ยงลงบนพื้นอีกครั้งอย่างแรง

อินาโฮะที่หนีไม่พ้นถูกเหวี่ยงลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หลังคอเขาบังเอิญไปถูกกระทบกระแทกขาโต๊ะที่ล้มระเนระนาดเข้าผิดจุดพอดิบพอดีทำให้สติของอินาโฮะถูกพรากไปในทันที ในตอนนี้มีเพียงร่างของอินาโฮะที่นอนแน่นิ่งกับรอยยิ้มหอบอย่างเย้ยหยันของอาจารย์วิชาคณิตศาสตร์

            อาคารเรียนยามเย็นปกติมักจะร้างผู้คนเสมอทำให้อาจารย์วิชาคณิตศาสตร์คนนี้มั่นใจได้ว่าต่อให้อินาโฮะจะหนีออกไปจากห้องได้แต่ก็ไม่อาจหนีเขาออกจากอาคารเรียนนี้ได้แน่นอน

            เขาคร่อมก้มตัวลงไปคร่อมทับอินาโฮะอีกครั้ง มือสากปลดกระดุมเสื้อนักเรียนเผยร่างกายขนาดสมส่วนของอินาโฮะ เขาลงมือสัมผัสไปตามร่างกายและใบหน้าของอินาโฮะอย่างย่ามใจ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วถึงจะผิดแผนไปหน่อยที่ว่าในตอนแรกจะจัดการอินาโฮะตอนมีสติให้ร้องห่มร้องไห้อยู่ในห้องเรียนจนหนำใจแล้วค่อยทำใช้หมดสติด้วยเครื่องช๊อตไฟฟ้า จากนั้นค่อยลากตัวไปไปกักขังไว้ที่บ้านของเขาแล้วอัดคลิปแบล็คเมล์เพื่อข่มขู่ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายสลบไปเองแบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้ พอจัดการพรากความบริสุทธิ์ของเด็กตรงหน้าจนเขาพอใจแล้วค่อยลากตัวกลับบ้านก็ถือว่าไม่แย่นัก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ นักเรียนคนไหนที่เขาไม่ชอบขี้หน้าเขาจะจัดการสั่งสอนให้ศิโรราบอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าเขาทุกราย หากนักเรียนคนใดหน้าตาไม่ถูกตาต้องใจเขา เขาจะใช้กำลังซ้อมเด็กคนนั้นจนต้องเข้าโรงพยาบาลและมอบความอัปยศให้ด้วยการอัดคลิปตอนเด็กคนนั้นโดนพวกใช้แรงงานที่เขาจ้างมารุมกระทำชำเราทางเพศ แต่ถ้าหากเป็นเด็กที่หน้าตาถูกตาต้องใจเขา เขาจะเก็บเด็กคนนั้นไว้ละเล่นเองจนกว่าจะเบื่อ ถึงเขาจะเกลีดนิสัยของอินาโฮะแต่ก็ไม่ได้เกลียดใบหน้าของอินาโฮะ เพราะอย่างนั้นอินาโฮะจึงจะต้องถูกเขาเก็บไว้ละเล่นจนสาแก่ใจ

พอนึกถึงใบหน้านองตาในสภาพไร้อาภรณ์กำลังก้มลงอยู่แทบเท้าเขาอย่างไร้ศักดิ์ศรีมันทำให้อารมณ์กำหนัดของอาจารย์วัยห้าสิบสี่ปีพุ่งสูงขึ้นทันควัน เขาก้มลงประทับรอยจูบลงตามร่างกายของอินาโฮะอย่างหื่นกระหาย ความหน้ามืดตามัวทำให้เขาไม่รับรู้เลยว่าได้มีใครบางคนเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องที่เขาหันหลังให้

“แกทำอะไรน่ะ!
.

.

.

ตึก

ตึก

ตึก

ทางเดินอ้างว้างภายในอาคารเรียนดังสะท้อนเสียงฝีเท้าคู่หนึ่ง ดวงอาทิตย์ยามนี้ใกล้ตกดินเต็มทีทำให้ท้องฟ้าสีแดงฉานเริ่มถูกสาดทับด้วยสีดำ เจ้าของเสียงฝีเท้าหยุดยืนราวกับคิดอะไรบางอย่างพลางก้มลงมองคนที่เขากำลังอุ้มอยู่ในอ้อมแขนในยามนี้

            พอคิดแล้วคิดอีกว่าจะปล่อยทิ้งไว้ก็เกรงจะถูกคนทำร้ายอีก แต่ถ้าจะพากลับบ้านเจ้าตัวก็ไม่รู้ทาง สุดท้ายจึงตัดสินใจพาตัวปัญหานี้กลับบ้านตัวเองนับว่าน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด

และแล้วฝีเท้าที่หยุดลงก็เริ่มออกเดินอีกครั้ง...


+++


            “สเลน! ทางนี้ ส่งมาทางนี้!

            ยามอาทิตย์อัสดง เพื่อนร่วมทีมเร่งเร้าให้สเลนส่งบอลไปให้ ในตอนนี้พวกเขากำลังทำกิจกรรมชมรม เขาอยู่ทีมบาสเก็ตบอลชาย และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะมีการแข่งขันกันในแต่ละโรงเรียนเพื่อชิงความเป็นหนึ่ง

            สเลนไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนร่วมทีมมุ่งหน้าฝ่าด่านป้องกันของทีมฝ่ายตรงข้ามเข้าไปในที่สุดเขาก็กระโดดทำดังค์ยัดลูกบอลลงห่วงอย่างสวยงาม เสียงกรี๊ดของสาวรุ่นเดียวกันดังกระหึ่มอยู่ข้างสนามเพราะไม่อาจทนภาพที่พวกเธอเหล่านั้นคิดว่าเท่บาดใจของสเลนได้ไหว

            “โธ่ ทำไมไม่ส่งบอลนั่นให้ฉันเล่า นายจะบุกเข้าไปเสี่ยงแบบนั้นทำไมพ่อคนเนื้อหอม”

            “สุดท้ายบอลก็ไม่โดนชิงไปนี่ครับ รุ่นพี่”

            “นายนี่มัน... คราวหลังก็อย่าบุ่มบ่ามแบบนี้อีกล่ะ ตอนแข่งกับโรงเรียนอื่นถ้านายประมาทแบบนี้ละตายแน่ โรงเรียนเราเน้นแต่วิชาการไม่สนสนับสนุนกีฬาเท่าที่ควรทำให้เข้ารอบไปไม่ถึงไหนสักที แต่ก็ไม่เคยแพ้ตั้งแต่รอบแรกหรอกนะ”

            “ครับๆ วันหลังผมจะให้รุ่นพี่ได้อวดสาวบ้างก็ได้ครับ อ้อ แล้วก็วันนี้ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีลืมตั้งอัดรายการที่อยากดูตอนเย็นไว้”

            “ได้สิ นี่ก็เย็นใกล้ค่ำมากแล้ว เดี๋ยวพวกเราซ้อมกันอีกแค่รอบเดียวก็จะกลับแล้วเหมือนกัน นายจะไปก่อนก็ไม่มีปัญหา”

            หลังจากได้รับคำอนุญาตแล้วสเลนจึงกลับเข้าห้องชมรมไปเปลี่ยนชุดที่ชุ่มเหงื่อเป็นชุดนักเรียนแทน เขาสำรวจสิ่งของในกระเป๋าเพื่อตรวจสอบเล็กน้อยและพบว่าตัวเองลืมหยิบสมุดการบ้านวิชาวิทยาศาสตร์มาจึงจำต้องกลับไปยังห้องเรียนอีกครั้ง

            หลังจากหยิบสมุดการบ้านใส่ลงไปในกระเป๋าอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจนักเสียงของล้มลงจากห้องด้านของก็ได้ดึงดูดความสนใจของเขาไปในทันที เนื่องจากยามเย็นภายในอาคารจะเงียบสงัดมากทำให้ได้ยินเสียงทุกสิ่งทุกอย่างแจ่มชัด ไม่นานนักเสียงเหมือนของบางอย่างล้มครั้งที่สองก็ตามมา

สเลนตัดสินใจเดินไปยังห้องด้านข้างพลางคิดว่าหากเป็นพวกก่อกวนเขาจะจัดการและจับส่งผู้อำนวยการทันที แต่แล้วสิ่งที่เขาเห็นกลับเป็นภาพอาจารย์ชายคนหนึ่งกำลังคร่อมอยู่บนตัวของนักเรียนคนหนึ่ง ร่างของนักเรียนคนนั้นถึงแม้จะไม่ได้ขัดขืนเพื่อบ่งบอกถึงความไม่ยินยอมแต่มันก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนเช่นกัน เพียงเท่านั้นก็พอทำให้สเลนรู้ว่านักเรียนคนนั้นไม่มีสติเหลืออีกต่อไปแล้ว และยิ่งสภาพห้องที่โต๊ะระเนระนาดแบบนี้บ่งบอกถึงสภาพการณ์ว่านักเรียนคนนั้นมีการดิ้นรนต่อสู้จนกระทั่งถูกทำร้ายจนสลบไปก็ทำให้สเลนไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานแล้วยัดมันเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง

            “แกทำอะไรน่ะ!” พอตะโกนออกไปแบบนั้น อาจารย์ที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดีก็หันมามองเขาทันควัน เป็นอาจารย์ที่สอนวิชาคณิตศาสตร์นั่นเอง

            “ทำถึงมาอยู่ที่นี่สเลนคุง ย่ำเย็นค่ำแบบนี้แล้วไม่รู้จักกลับบ้านกลับช่อง เป็นเด็กไม่ดีเอาซะเลยนะ”

            “ถ้าผมกลับบ้านเร็วก็คงไม่เห็นอาจารย์ทำเรื่องผิดจรรยาบรรณสิครับ”

            “เธอจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วปล่อยเรื่องนี้ไปได้ไหมสเลนคุง”

“เห็นทีคงจะไม่ได้ครับ ถ้าผมแจ้งเรื่องนี้กับทางโรงเรียนผมจะได้คะแนนพิเศษเพิ่ม เหยื่อชิ้นโตแบบนี้ถ้าปล่อยไปผมคงโง่จริงๆ ”

            หลังสิ้นประโยคสเลน อาจารย์คณิตศาสตร์หยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าออกมาพร้อมพุ่งตัวเข้าโจมตี สเลนยกแขนขึ้นปัดได้ทันและหลังจากนั้นก็กลายเป็นการต่อสู้อย่างอุตลุด ในตอนแรกคนทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างสูสี หมัดแลกหมัด ล้มลุกคลุกคลาน จนในที่สุดความปราชัยก็ปรากฏแก่ผู้เป็นอาจารย์

            สเลนถ่มเลือดลงบนพื้นใช้แขนเสื้อเช็ดปาก จ้องมองคนที่นอนกองอยู่บนพื้นด้วยสายตาดุดัน จากนั้นจึงหันกายไปสำรวจผู้เสียหายในคดีนี้กลับต้องพบว่าคนๆ นั้นคือคนที่เขารู้จักและพบหน้ากันเมื่อวานนี้ จู่ๆ อารมณ์คุกรุ่นที่เริ่มดับมอดลงได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง...แถมยังรุนแรงเสียด้วย

            สเลนหันไประบายโทสะกับร่างสะบักสะบอมของอาจารย์จนจำสภาพเดิมไม่ได้ รองเท้าของเขาเกราะกรังไปด้วยเลือดของอีกฝ่าย ต่อให้ฆ่าให้ตายความคับแค้นนี้ก็คงไม่มอดดับลงง่าย เขาจะไม่ให้อภัย...ไม่ให้อภัยคนที่มารังแกเจ้าสีส้มของเขา คนที่สามารถรังแกเจ้าสีส้มได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น! คนที่มาทำร้ายเจ้าสีส้มเขาจะทำให้มันรู้สึกอัปยศอดสูไปชั่วชีวิต!!




            “คุณนี่มันมีฟีโรโมนดึงดูดพวกโรคจิตอะไรทำนองนั้นหรือไง” สเลนบ่นอุบหลังจากโยนอินาโฮะลงบนเตียงอย่างไม่คิดทะนุถนอมอย่างใดทั้งสิ้น เหตุการณ์เมื่อวานก็ดีเหตุการณ์วันนี้ก็ดี ทำไมถึงมีแต่ผู้ชายเข้าหาหมอนี่กัน “ช่างเถอะ ยังไงเดี๋ยวผมจะเช็ดตัวให้แล้วกัน”

            หลังจากจัดการเช็ดตัวอินาโฮะเรียบร้อยและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอขงเขาให้ใหม่แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อของอินาโฮะก็ดังขึ้น สเลนเป็นฝ่ายรับสายและพบว่าคนที่โทรฯ มาคือพี่สาวของอินาโฮะ เขาโกหกอีกฝ่ายไปว่านาโอะคุงที่อีกฝ่ายเรียกเป็นเพื่อนเขาและมาเล่นที่บ้านเขาจนเผลอหลับไปแล้วเพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงนาโอะคุงจะพักอยู่ที่บ้านของเขาหนึ่งคืน หลังจากเคลียร์ปัญหาให้อินาโฮะไปได้อีกหนึ่งเขาตัดสินใจจะเอาเสื้อผ้าของอินาโฮะไปซัก และขณะนั้นเอง...

            แกร๊ง!

            สร้อยอันแสนคุ้นตาเส้นหนึ่งได้หล่นลงมาจากกระเป๋าเสื้ออีกข้างหนึ่ง

            เสื้อตัวนี้เป็นของอินาโฮะ... สร้อยคอนี้เป็นของที่เขามอบให้อัสเซลัม... อัสเซลัมได้หายตัวไปสักพักแล้ว...

            “หืมมมม” สเลนลากเสียงยาวต่ำก้มลงเก็บสร้อยสีเงินขึ้นมา สาตาปกติเปลี่ยนไปจนน่าขนลุก มันตวัดมองคนบนเตียงอย่างเย็นชา คมกริบจนราวกับจะสามารถเชือดเฉือนร่างของคนๆ หนึ่งให้แยกออกเป็นชิ้นๆ ได้

            “ดูท่าว่าผมกับคุณคงต้องมีเรื่องคุยกันอีกยาว”

          จะไม่ปล่อยไปจนกว่าจะได้คำตอบ!!!




ตอนที่ 5

ฮีโร่


[จบ]








+++++++++++++++++++

มาต่อแล้วค่าหลังจากห่างหายไปนาน ตอนนี้รีบปั่นมากค่ะ เพราะจู่ๆอารมณ์อยากแต่งเรื่องนี้ต่อก็ผุดขึ้นมาซะงั้น(ทั้งๆทีการบ้านท่วมหัว)

เนื้อหาช่วงหลังๆนี้รีบพิมพ์มากค่ะ คือดึกแล้ว เอ๊ย! เช้าแล้ว และต้องตื่นมานั่งปั่นการบ้านแบบเร่งด่วนมากในวันพรุ่งนี้ ทำให้ลดบทสนทนาบางส่วนมาเป็นบทบรรยายแทนและอาจมีคำผิดเยอะเพราะแต่งเสร็จแล้วไม่ได้อ่านทวนเลยค่ะ แต่งเสร็จปุ๊บเอามาลงปั๊บ สามารถทักท้วงได้นะคะเรื่องจุดไหนผิดบ้าง เราจะได้แก้

ว่าแล้วก็เอาภาพชูใจมาแปะให้ได้ชมกันค่ะ ส่วนเครดิตก็เอ่อ... save มานานแล้วจริงๆเลยจำไม่ได้ค่ะ แต่ก็น่าจะอยู่ในเว็บ pixiv ของนักวาดสักคน

หมายเหตุ : ภาพประกอบไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องตอนนี้นะคะ แต่สภาพโฮะตัวช้ำๆแบบนี้จะจิ้นว่าโฮะในตอนนี้สภาพคล้ายแบบนี้ก็ได้ค่ะ 



















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น